GUNKUL จะวิ่งไปไหนต่อ

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

สุนันท์ ศรีจันทรา
หุ้นบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL แม้จะไม่โลดโผนโจนทะยาน ไม่ติดอยู่ในข่ายหุ้นร้อน แต่ราคาไต่ระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นหุ้นที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกด้วยกัน

ปี 2564 หุ้น GUNKUL วิ่งขึ้นแทบตลอดปี จากราคา 2 บาทเศษ ขึ้นมาปิดสิ้นปีที่ 5.60 บาท โดยผลประกอบการที่เติบโตเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้ามาไล่ซื้อหุ้น และต้นปีนี้ยังมีแรงซื้อหนุนเข้ามา ผลักดันให้ราคาหุ้นปรับฐานราคาขึ้น จนสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ 7.20 บาท ซึ่งเป็นราคาปิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ราคาหุ้น GUNKUL เคลื่อนไหวอยู่แถว 2-3 บาทอยู่ยาวนานหลายปี เนื่องจากผลประกอบการไม่โดดเด่น แต่หลังมีผลกำไรเติบโตต่อเนื่องหลายปี บรรยากาศการซื้อขายจึงคึกคักขึ้น

ปี 2561 GUNKUL มีกำไรสุทธิ 1,090.24 ล้านบาท ปี 2562 กำไรสุทธิ 2,147.33 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิ 3,412.34 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,721.49 ล้านบาท

กำไรที่เติบโต ทำให้ค่าพี/อี เรโช GUNKUL ต่ำลง โดยมีค่าพี/อี เรโช ประมาณ 18 เท่า ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ขณะที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 2.61% จึงจูงใจให้นักลงทุนทยอยเข้ามาช้อนเก็บ

ปีที่ผ่านมา GUNKUL ประกาศขยายการลงทุนในกัญชง โดยขออนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง และการขออนุญาตปลูกกัญชง ซึ่งเป็นข่าวที่สร้างสีสัน กระตุ้นการเก็งกำไรหุ้น

ช่วงปลายปีจับมือเป็นพันธมิตรกับกลุ่มบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ธุรกิจกัญชง-กัญชา และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

GUNKUL มีข่าวดีให้เล่นมาตลอดปี2564 และแม้ต้นปีนี้ยังไม่มีข่าวดีกระตุ้นราคาหุ้น แต่มีเสียงเชียร์จากโบรกเกอร์หลายสำนักแนะให้นักลงทุนซื้อหุ้น GUNKUL แต่กำหนดราคาเป้าหมายไม่สูงนัก โดยหลายแห่งกำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 6 บาทเศษ แต่บางสำนักตั้งเป้าหมายราคาสูงกว่า 8 บาท

โครงสร้างผู้ถือหุ้น GUNKUL ประกอบด้วยบริษัท กันกุล กรุ๊พ จำกัด ของกลุ่มดำรงปิยวุฒิ์ ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 49.90 ของทุนจดทะเบียน โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 27,369 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 43.06%

แม้จะเป็นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดกลาง มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 67,289 ล้านบาท แต่จัดเป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม เพราะมีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยเกือบ 3 หมื่นราย และยังไม่มีใครเสียหาย นอกจากได้กำไร เพราะราคาหุ้นพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่

จากราคาปิดสิ้นปี 2564 ที่ 5.60 บาท ล่าสุดปิดที่ 7.20 บาท ปรับตัวขึ้น 1.60 บาท หรือประมาณ 30% และเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่มาแรงที่สุดนับจากต้นปี แต่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นจนเต็มมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานแล้ว ถ้าอิงจากบทวิเคราะห์โบรกเกอร์หลายสำนัก

จุดเด่นของ GUNKUL อยู่ที่ค่าพี/อี เรโชต่ำ และอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง ซึ่งหากผลประกอบการไม่ผันผวน โดยสามารถรักษาอัตราเติบโตของผลกำไรได้ต่อเนื่อง จะเป็นหุ้นที่สามารถซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาวได้

เพียงแต่ระยะสั้นวิ่งมาไกลแล้ว จึงมีคำถามว่า ต่อจากนี้ GUNKUL จะวิ่งไปไหนต่อ จะหยุดพักเหนื่อยบ้างหรือไม่

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket